สำนักงานเกษตรอำเภอราชสาส์น

70 หมู่ 2 ต.บางคา อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา 24120

การทำปุ๋ยหมักอย่างง่ายไว้ใช้เอง

นายสายันต์ กมลคร
เกษตรอำเภอราชสาส์น

นายสายันต์ กมลคร

เกษตรอำเภอราชสาส์น

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับอำเภอ

หน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ระบบการทำงาน DOAE

ระบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง DOAE

soi1-1 การทำปุ๋ยหมักอย่างง่ายไว้ใช้เอง

soi2ฐานเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีเครื่องจักรกลเกษตร คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้  โดยมี รองศาสตราจารย์บัณฑิต หิรัญสถิตย์พร  เป็นหัวหน้าโครงการ ได้ผลิตเครื่องหั่นย่อยและเครื่องบดย่อยให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปเป็นเวลาหลายปี พบว่า ในการทำปุ๋ยหมักทั่วไปจะมีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากไม่สะดวก  รองศาสตราจารย์บัณฑิต หิรัญสถิตย์พร  จึงได้ศึกษาและรวบรวมวิธีการทำปุ๋ยหมักที่ง่าย แล้วนำมาทดลองทำดู แล้วเห็นว่ามีวิธีการทำปุ๋ยหมักที่ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และใช้เวลาในการดูแลรักษากองปุ๋ยน้อย

วิธีแรกเป็นการทำปุ๋ยหมักจากใบไม้แห้งหรือสดก็ได้ที่ผ่านการย่อย การทำทำโดยการย่อยใบไม้  แล้วนำเศษใบไม้ที่ย่อยแล้วไปใส่ในถังตาข่าย(ตาข่ายยาว 2.5 เมตร จะได้ถังขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.8 เมตร) โดยเทเศษใบไม้สลับกับขี้วัว โดยใช้เศษใบไม้หนา 15 เซนติเมตร และขี้วัวหนา 5 เซนติเมตร ในแต่ละชั้นให้ทำการลดน้ำให้ชุ่ม ส่วนชั้นบนสุดให้คลุมด้วยเศษใบไม้หนา 5 เซนติเมตร ทำการลดน้ำทุก 5-7 วัน ทำโดยใช้ไม้หรือเหล็กแทงเข้าไปในกองปุ๋ยให้เป็นรู เพื่อที่จะกรอกน้ำลงไปเนื่องจากเมื่อปุ๋ยยุบตัวลงจะมีความแน่นมากขึ้น การรดน้ำจะทำให้น้ำซึมลงไปเฉพาะด้านบนของกองปุ๋ย ส่วนด้านล่างกองปุ๋ยจะไม่ได้รับน้ำ  ใบไม้จะกลายเป็นปุ๋ยหมัก ในช่วงเวลาประมาณ 45-60 วัน (สังเกตกองปุ๋ยหมักจะยุบตัวลงประมาณ 30-40 เซนติเมตร และปุ๋ยหมักจะมีสีดำ ถ้าขุดลงไปจะไม่พบใบไม้แต่ใบไม้จะกลายเป็นปุ๋ยหมดแล้ว) การหมักปุ๋ยวิธีนี้ควรทำบนดิน เพราะน้ำส่วนเกินที่เรารดไปจะได้ซึมลงในดินsoi1

วิธีที่สองเป็นการทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร โดยกระบวนการนี้ได้นำแนวความคิดมาจากคุณกิตติ เจริญพานิช เจ้าของร้านอาหารเรือนผักกูด ตำบลช้างกลาง กิ่งอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช มาใช้  โดยวิธีนี้ต้องใช้ใบไม้แห้งเท่านั้น ขั้นตอนแรกให้นำบ่อปูนซีเมนต์(บ่อส้วมที่ปลายทั้งสองข้างไม่มีฝา) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เซนติเมตร เมตร สูง 50 เซนติเมตร มาวางบนอิฐหรือลูกปูน ให้ขอบล่างของบ่อปูนซีเมนต์อยู่สูงจากพื้นดิน 15 เซนติเมตร  จากนั้นนำใบไม้แห้งที่ย่อยแล้วมาใส่ในบ่อปูนซีเมนต์ให้สูง 40 เซนติเมตร แล้วนำเศษอาหารมาเทใส่โดยความสูงของเศษอาหารไม่ควรเกิน 30 เซนติเมตร (เมื่อใส่เศษอาหารลงไปใบไม้แห้งที่ย่อยแล้วที่อยู่ด้านล่างจะยุบตัวลง) แล้วนำใบไม้แห้งที่ย่อยแล้วมาเททับอีกครั้ง โดยให้มีความสูงประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร  หรืออาจใส่เศษอาหารเป็นชั้นๆ ก็ได้ โดยใส่เศษอาหารสูงประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วนำใบไม้แห้งที่ย่อยแล้วมาเททับอีกครั้ง โดยให้มีความสูงประมาณ 10 – 15 เซนติเมตร  ทิ้งไว้ประมาณ 30 วัน ก็จะได้ปุ๋ยอินทรีย์  หลังจากนั้นให้ใช้พลั่วตักปุ๋ยอินทรีย์ซึ่งกองอยู่ด้านล่างของบ่อปูนซีเมนต์ไปใช้งานได้เลย  ในระหว่างช่วงเวลาการหมัก กองปุ๋ยจะยุบตัวลง เราสามารถนำเศษอาหารมาเติมลงไปแล้วก็นำใบไม้ที่ย่อยมาเททับตามขั้นตอนที่ 2 เป็นชั้นๆ ได้เรื่อยๆ วิธีการนี้ข้อควรระวังคือการนำเศษอาหารไปยังบ่อปูนซีเมนต์นั้นต้องไม่ให้มีเศษอาหารหรือน้ำแกง  หล่นบนพื้นและขอบปากบ่อปูนซีเมนต์ เพราะจะทำให้มีแมลงวันมาตอมได้  นอกจากนี้เมื่อนำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารออกมาจนหมดแล้วก็ควรเว้นระยะการทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารในบ่อนั้น แล้วทำการตากแดดไว้ 7 วัน ข้อสำคัญในการทำปุ๋ยหมักวิธีนี้คือต้องทำบนดินที่มีการระบายน้ำได้ดี เพราะน้ำแกงจะได้ซึมsoi3ลงในดินไม่ไหลออกด้านข้างบ่อปูนซีเมนต์ ซึ่งอาจทำให้แมลงวันมาตอมได้

ส่วนกิ่งไม้แห้งถ้านำมาทำปุ๋ยหมักจะใช้เวลาในการหมักนาน ดังนั้นส่วนใหญ่ผมจึงนำมาย่อยแล้วนำเศษกิ่งไม้แห้งไปคลุมโคนต้นไม้ ซึ่งจะลดการระเหยของน้ำทำให้ประหยัดน้ำที่จะลดต้นไม้ลงได้

สำหรับหน่วยงานที่ผมไปส่งเสริมให้ทำปุ๋ยหมักอย่างง่าย แล้วประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ได้แก่ Birds & Bees resort and Cabbages & Condoms restaurant พัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมีคุณมีชัย วีระไวทยะ เป็นผู้ก่อตั้ง และมีคุณณัฐ พยับวิภาพงศ์..เป็นผู้จัดการ… ซึ่งได้นำวิธีการทำปุ๋ยหมักจากใบไม้ และการทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารไปใช้เพื่อแก้ปัญหาการกำจัดเศษใบไม้และอาหาร โดยจัดทำโครงการ”ปุ๋ยหมักสีรุ้ง”ขึ้น ซึ่งทำการประยุกต์โดยการทาสีบ่อปูนซีเมนต์เป็นสีต่างๆ แล้วนำไปไปประดับในแปลงสวนผัก ซึ่งนอกจากจะได้ปุ๋ยหมักเพื่อนำไปใส่แปลงสวนผักแล้ว ยังเป็นของประดับสวนได้อีกด้วย โดยโครงการนี้จัดทำบ่อหมักไว้ประมาณ 50 บ่อ ซึ่งสามารถกำจัดเศษsoi4อาหารเหลือทิ้งและเศษใบไม้ของโรงแรมได้ปีละหลายตัน และได้ปุ๋ยหมักออกมาใช้ทุกวัน ทำให้พื้นที่ที่เป็นดินทรายสามารถปลูกผักและผลไม้ได้ ซึ่งแปลงผักนี้เป็นผักอินทรีย์ไม่ใช้สารเคมี  ผักนี้นำมาใช้ทำอาหารและผักสลัดให้ลูกค้ารับประทาน ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่ารับประทานผักที่โรงแรมแห่งนี้ปลอดสารพิษอย่างแน่นอน  ถ้าโรงแรมในประเทศไทยหันมากำจัดเศษใบไม้และอาหารแทนการทิ้งแล้ว ก็จะสามารถช่วยลดปัญหาและลดงบประมาณของประเทศลงได้ และที่สำคัญที่สุดโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่ทำธุรกิจเพื่อสังคม กล่าวคือ รายได้ของโรงแรมแห่งนี้จะถูกนำไปช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ ซึ่งในปีนี้ได้นำรายได้ไปช่วยเหลือในด้านการศึกษาให้กับโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา จังหวัดบุรีรัมย์ ฉะนั้นการได้มาเที่ยวและเยี่ยมชมที่แห่งนี้ ได้ทั้งความผ่อนคลายกับสถานที่สุดsoi6สวยติดทะเล อาหารอร่อยปราศจากสารพิษ และยังอิ่มใจกับความสุขที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสบทบทุนช่วยในการพัฒนาการศึกษาของเด็กไทย

ติดตามข่าวสารช่องทางอื่น
Email : Chs_ratchasan@doae.go.th
เว็บไซต์ : https://chachoengsao.doae.go.th/ratchasan/
TIKTOK : https://www.tiktok.com/@kaset_ratchasan_doae
Twitter : https://twitter.com/Officia75282838
IG : https://www.instagram.com/laborerkasettambon/
facebook : https://www.facebook.com/KASETRatchasan