- ลักษณะดิน กลุ่มชุดดิน (แสดงแผนที่กลุ่มชุดดิน) ลักษณะชุดดินของอำเภอราชสาส์น ประกอบไปด้วย 7 ชุดดิน ดังนี้
- Cc ชุดดินฉะเชิงเทรา
- Dr ชุดดินดอนไร่
- Ma ชุดดินมหาโพธิ
- Ok ชุดดินองครักษ์
- Rs ชุดดินรังสิต
- AC-pd ดินตะกอนน้ำพาเชิงซ้อนที่มีการะบายน้ำเลว
- NBC ดินตะกอนหลายชนิดปนกัน มีความเป็นกรดและถูกยกร่อง
ข้อมูลกลุ่มชุดดิน ที่มีความสำคัญและความเหมาะสมของดินรวมไปถึงคุณภาพดินในอำเภอราชสาส์น จังหวัดฉะเชิงเทรา ประกอบไปด้วย
1 .ชุดดินมหาโพธิ (Ma)
ลักษณะโดยทั่วไป : เป็นดินลึก ดินบนเป็นดินเหนียวมีสีดำหรือสีเทาเข้มมีจุดประสีน้ำตาลแก่ ปฏิกิริยาดิน เป็นดินกรดจัดมากถึงกรดจัด (pH 4.5-5.5) ดินบนตอนล่าง เป็นดินเหนียวปนทรายแป้งมีสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลปนเทามีจุดประสีแดงและสีเหลืองปนน้ำตาล จะพบจุดประสีเหลืองฟางข้าว ในดินล่างลึกลงไปโดยทั่วไปลึกกว่า 1 เมตร จากผิวดิน หน้าอัดมันและรอยไถลและหน้าดินจะแตกระแหงเมื่อดินแห้งปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมากถึงกรดจัด (pH 4.5-5.5) ดินล่างตอนล่าง เป็นดินเลนเหนียวสีเทาเข้ม ปฏิกิริยาดินเป็นกรดเล็กน้อย (pH 6.5 )
ปัญหาในการใช้ประโยชน์ที่ดิน : ดินเป็นกรดจัด การระบายน้ำเลวมีน้ำท่วมขังในฤดูฝนลึก 80-200 ซม.
ข้อเสนอแนะในการใช้ประโยชน์: เนื่องจากสภาพพื้นที่ราบเรียบถึงราบลุ่มเนื้อดินเป็นดินเหนียวการระบายน้ำเลว ในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำขังอยู่ที่ผิวดิน ระหว่าง 4-6 เดือน จึงมีศักยภาพเหมาะสมที่จะใช้ทำนาในช่วง ฤดูฝน แต่สามารถปลูกพืชไร่ พืชผัก หรือพืชอื่นที่มีอายุสั้นได้ในช่วงฤดูแล้ง สำหรับในบริเวณพื้นที่ที่มีน้ำชลประทานเข้าถึงหรือแหล่งน้ำธรรมชาติ ถ้าใช้ปลูกไม้ยืนต้น ไม้ผล หรือปลูกพืชไร่และพืชผัก ตลอดทั้งปีจะต้องทำคันดินล้อมรอบพื้นที่เพาะปลูกและยกร่องปลูกเพื่อช่วยการระบายน้ำของดิน
- ชุดดินรังสิต (Rs)
ลักษณะเด่น เป็นดินลึก ดินบนเป็นดินเหนียวสีดำหรือสีเทาเข้ม มีจุดประสี น้ำตาลปนเหลือง ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมากถึงกรดจัด (pH 4.0-5.0) มักมีรอยแตกระแหงที่ผิวหน้าดินในฤดูแล้งดินบนตอนล่างสีน้ำตาลปนเทา หรือน้ำตาลปนเทาเข้ม มีจุดประสีแดงหรือสีแดงปนเหลือง ที่ระดับความลึกประมาณ 50-100 ซม.พบจุดประสีเหลืองฟางข้าวของสารจาโรไซต์ดินล่างตอนล่างเป็นดินเหนียว พบรอยไถและผิวหน้าอัดมันส่วนที่ระดับลึกกว่า 100-150 ซม. ลงไปมีลักษณะเป็นดินเลนปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมาก (pH <4.0)
ปัญหาในการใช้ประโยชน์ที่ดิน : ดินเป็นกรดจัดมากหรือเป็นดินเปรี้ยวจัดลึกปานกลางในช่วงความลึก 50-100 ซม. จากผิวดิน เกิดการตรึงของธาตุอาหารและมีสารที่เป็นพิษต่อพืชที่ปลูก มีโครงสร้างดินแน่นทึบ ดินแห้งแข็งและแตกระแหง ทำให้ไถพรวนยาก คุณภาพน้ำเป็นกรดจัดมาก ขาดแคลนแหล่งน้ำจืด และน้ำท่วมขังในฤดูฝน ทำความเสียหาย กับพืชที่ไม่ชอบน้ำ
ข้อเสนอแนะในการใช้ประโยชน์ ควบคุมน้ำใต้ดินเพื่อป้องการเกิดออกซิเจนของไพไรต์ การยกร่องปลูกพืชเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถป้องกันการเกิดกรดดังกล่าวได้ ถ้าจะใช้ปลูกข้าว ควรใช้ปูนมาร์ลในอัตรา 2 ตันต่อไร่ ควบคู่ไปกับการใช้ปุ๋ย ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส ถ้าค่าปฏิกิริยาดิน วัดได้น้อยกว่า 4.5 และถ้าค่าปฏิกิริยาดินสูงกว่า 4.5 ใช้ปุ๋ยและหินฟอสเฟตก็พอ เลือกพันธุ์พืชที่เหมาะสม