นายสายันต์ กมลคร
เกษตรอำเภอราชสาส์น

นายสายันต์ กมลคร

เกษตรอำเภอราชสาส์น

ค้นหา

หน่วยงานเกษตรระดับอำเภอ

หน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ระบบการทำงาน DOAE

สำนักงานเกษตรอำเภอราชสาส์น

70 หมู่ 2 ต.บางคา อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา 24120

10 อันดับเครื่องจักรการเกษตรที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงและน่าสนใจในปี 2025

10 อันดับเครื่องจักรการเกษตรที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงและน่าสนใจในปี 2025


ในปี 2025 เทคโนโลยีทางการเกษตรได้พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการเกษตรกรรมทั่วโลก เครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัยได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และส่งเสริมการทำเกษตรอย่างยั่งยืน บทความนี้จะนำเสนอ 10 อันดับเครื่องจักรการเกษตรที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงและน่าสนใจที่สุดในปี 2025 ซึ่งกำลังปฏิวัติวงการเกษตรด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย โดยแต่ละเครื่องจักรไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพสูงเท่านั้น แต่ยังมีความแม่นยำ ช่วยประหยัดทรัพยากร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

  1. โดรนเกษตรอัจฉริยะ XAG Agricultural Drone
    โดรนเกษตรอัจฉริยะ XAG Agricultural Drone เป็นนวัตกรรมขั้นสูงจากบริษัท XAG ประเทศจีน ที่ได้พัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2025 โดรนรุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมตั้งแต่การหว่านเมล็ดพันธุ์ การหว่านปุ๋ย การพ่นสารอารักขาพืช ไปจนถึงการขนส่งวัสดุทางการเกษตรขนาดเล็ก

การทำงานของโดรน XAG อาศัยระบบควบคุมอัตโนมัติขั้นสูงที่สามารถตั้งโปรแกรมให้บินและทำงานได้ตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยใช้เทคโนโลยี GPS แบบแม่นยำระดับเซนติเมตร ระบบนี้ทำให้โดรนสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำแม้ในพื้นที่ที่มีภูมิประเทศซับซ้อน นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจจับและหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ทำให้การทำงานมีความปลอดภัยสูง โดรนสามารถทำงานต่อเนื่องได้นานขึ้นด้วยแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่ชาร์จได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบร้อนได้ทันที ทำให้ไม่เสียเวลาในการทำงาน

จุดเด่นที่สำคัญของโดรน XAG คือความสามารถในการปรับใช้งานได้หลากหลายรูปแบบผ่านการเปลี่ยนอุปกรณ์เสริม ไม่ว่าจะเป็นถังบรรจุสำหรับการพ่นสาร ระบบหว่านเมล็ดความแม่นยำสูง หรืออุปกรณ์สำหรับลำเลียงวัสดุ ทำให้เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์จากโดรนเพียงเครื่องเดียวได้หลากหลายงาน นอกจากนี้ โดรนยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายภายในฟาร์มผ่าน XAG Local Server เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์อื่นๆ ภายในฟาร์ม ช่วยให้การบริหารจัดการฟาร์มมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  1. รถแทรกเตอร์อัตโนมัติ John Deere Autonomous 9R
    รถแทรกเตอร์อัตโนมัติ John Deere Autonomous 9R เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท John Deere สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้นำด้านเครื่องจักรกลการเกษตรระดับโลก รถแทรกเตอร์รุ่นนี้ได้พัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติที่บริษัทได้ทำการวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นรถแทรกเตอร์ไร้คนขับที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในตลาดในปี 2025

การทำงานของรถแทรกเตอร์ John Deere Autonomous 9R อาศัยเทคโนโลยีการรับรู้และประมวลผลขั้นสูง โดยติดตั้งกล้อง เซ็นเซอร์ และระบบเรดาร์รอบคัน เพื่อสร้างภาพแวดล้อมแบบ 360 องศา ข้อมูลเหล่านี้จะถูกประมวลผลด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ผ่านการเรียนรู้สภาพพื้นที่เกษตรมาแล้วนับล้านชั่วโมง ทำให้สามารถตัดสินใจได้เหมือนเกษตรกรผู้ชำนาญ ระบบการควบคุมแบบอัตโนมัติสามารถทำงานได้ทั้งวันทั้งคืน โดยไม่จำเป็นต้องมีคนขับประจำอยู่ในห้องควบคุม แต่เกษตรกรสามารถควบคุมและติดตามการทำงานได้ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

จุดเด่นของรถแทรกเตอร์รุ่นนี้คือระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 60% เมื่อเทียบกับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบวิเคราะห์ดินแบบเรียลไทม์ที่สามารถปรับการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพดินในแต่ละพื้นที่โดยอัตโนมัติ เพิ่มผลผลิตได้มากถึง 30% ขณะที่ลดการใช้ทรัพยากรลงได้ 25% เมื่อเทียบกับการทำเกษตรแบบดั้งเดิม ความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์และเครื่องจักรอื่นๆ ในฟาร์มยังช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างสอดประสานกัน เพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของการทำเกษตรในพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างมีนัยสำคัญ

  1. หุ่นยนต์เกษตรภาคพื้นดินไร้คนขับ XAG Unmanned Ground Vehicle
    หุ่นยนต์เกษตรภาคพื้นดินไร้คนขับ XAG Unmanned Ground Vehicle (UGV) เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท XAG ประเทศจีน ที่ได้พัฒนาให้กลายเป็นผู้ช่วยอเนกประสงค์ภาคพื้นดินสำหรับงานเกษตร หุ่นยนต์รุ่นนี้ถูกออกแบบให้ทำงานได้หลากหลายประเภท โดยเฉพาะงานที่ต้องการความแม่นยำสูงและทำงานในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึง

การทำงานของ XAG UGV อาศัยระบบขับเคลื่อนแบบตีนตะขาบหรือล้อยางพิเศษที่สามารถปรับตัวได้กับสภาพพื้นผิวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ลาดชัน พื้นโคลน หรือพื้นที่ขรุขระ ระบบนำทางใช้เทคโนโลยี RTK (Real-Time Kinematic) GPS ที่ให้ความแม่นยำระดับเซนติเมตร ร่วมกับเซ็นเซอร์วัดระยะและกล้องความละเอียดสูงที่ใช้ในการตรวจจับสิ่งกีดขวางและวิเคราะห์สภาพแวดล้อม หุ่นยนต์สามารถทำงานได้อย่างอิสระตามแผนที่วางไว้ล่วงหน้า หรือสามารถควบคุมจากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ระบบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุสูงให้การทำงานต่อเนื่องได้นานถึง 8 ชั่วโมง และสามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 ชั่วโมง

จุดเด่นของ XAG UGV คือความสามารถในการทำงานได้หลากหลายประเภท โดยเฉพาะงานฉีดพ่นสารเคมีและงานลำเลียงขนส่ง สำหรับงานฉีดพ่น หุ่นยนต์มีระบบฉีดพ่นความแม่นยำสูงที่สามารถควบคุมปริมาณและขนาดของละอองสารได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดการใช้สารเคมีลงได้ถึง 30% ในส่วนของงานลำเลียงขนส่ง หุ่นยนต์สามารถบรรทุกสินค้าได้มากถึง 100 กิโลกรัม ช่วยแบ่งเบาภาระของเกษตรกรในการขนย้ายผลผลิตหรือวัสดุทางการเกษตร นอกจากนี้ หุ่นยนต์ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายภายในฟาร์มผ่าน XAG Local Server ทำให้สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ในฟาร์มได้อย่างสอดประสาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของฟาร์ม

  1. ระบบเก็บเกี่ยวอัจฉริยะ Kubota Smart Harvester
    ระบบเก็บเกี่ยวอัจฉริยะ Kubota Smart Harvester เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท Kubota Corporation ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเครื่องจักรกลการเกษตรที่มีชื่อเสียงระดับโลก รถเก็บเกี่ยวรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาให้เป็นระบบเก็บเกี่ยวอัตโนมัติที่มีความแม่นยำและประสิทธิภาพสูงที่สุดในปี 2025

การทำงานของ Kubota Smart Harvester อาศัยเทคโนโลยีการประมวลผลภาพและปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง โดยติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์หลายชนิดที่สามารถแยกแยะพืชผลที่พร้อมเก็บเกี่ยวได้อย่างแม่นยำ ระบบการเก็บเกี่ยวใช้แขนกลและใบมีดที่ควบคุมด้วยเซอร์โวมอเตอร์ความแม่นยำสูง ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวพืชผลได้อย่างนุ่มนวลและลดการสูญเสียผลผลิต ระบบประมวลผลภาพในเวลาจริงสามารถคัดแยกคุณภาพของผลผลิตระหว่างการเก็บเกี่ยว แยกผลผลิตที่มีคุณภาพแตกต่างกันไว้ในตำแหน่งที่ต่างกัน เพิ่มมูลค่าผลผลิตโดยรวม นอกจากนี้ ยังมีระบบวิเคราะห์สภาพพืชและดินระหว่างการเก็บเกี่ยว เพื่อรวบรวมข้อมูลสำหรับการวางแผนการเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป

จุดเด่นของ Kubota Smart Harvester คือความสามารถในการเก็บเกี่ยวพืชได้หลากหลายชนิดด้วยเครื่องจักรเดียว โดยสามารถปรับเปลี่ยนหัวเก็บเกี่ยวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง หรือพืชอื่นๆ ระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ไบโอดีเซลและมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นเก่า ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ระบบปรับตัวอัตโนมัติที่สามารถเรียนรู้จากการทำงานและปรับแต่งค่าให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และพืชแต่ละชนิด ทำให้ประสิทธิภาพการเก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับเครื่องเก็บเกี่ยวทั่วไป

  1. พวงมาลัยอัจฉริยะ XAG Auto Pilot Console
    พวงมาลัยอัจฉริยะ XAG Auto Pilot Console เป็นนวัตกรรมจากบริษัท XAG ประเทศจีน ที่ช่วยปฏิวัติการควบคุมเครื่องจักรกลการเกษตรที่มีอยู่เดิมให้กลายเป็นระบบกึ่งอัตโนมัติหรืออัตโนมัติเต็มรูปแบบ อุปกรณ์นี้เป็นโซลูชันที่ช่วยยกระดับเครื่องจักรกลการเกษตรรุ่นเก่าให้มีความสามารถใกล้เคียงกับรุ่นใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่ทั้งหมด

การทำงานของ XAG Auto Pilot Console อาศัยการติดตั้งชุดควบคุมอัจฉริยะเข้ากับพวงมาลัยของรถแทรกเตอร์หรือเครื่องจักรกลการเกษตรอื่นๆ ระบบจะควบคุมการหมุนพวงมาลัยและการทำงานของเครื่องจักรโดยอัตโนมัติ ด้วยความแม่นยำระดับเซนติเมตร การนำทางใช้ระบบ RTK GPS ความแม่นยำสูงที่สามารถระบุตำแหน่งได้แม่นยำถึงระดับ 2.5 เซนติเมตร ทำให้สามารถบังคับเครื่องจักรให้ทำงานตามแนวเส้นที่กำหนดไว้ได้อย่างแม่นยำ แม้ในสภาพภูมิประเทศที่ซับซ้อนหรือในเวลากลางคืน อุปกรณ์นี้ยังมีระบบการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ทำให้ผู้ใช้สามารถวางแผนเส้นทางการทำงาน ตั้งค่าพารามิเตอร์ต่างๆ และติดตามการทำงานได้อย่างสะดวก

จุดเด่นของ XAG Auto Pilot Console คือความสามารถในการติดตั้งเข้ากับเครื่องจักรได้หลากหลายรุ่นและหลายยี่ห้อ ทำให้เกษตรกรสามารถนำเทคโนโลยีอัตโนมัติมาใช้กับเครื่องจักรที่มีอยู่แล้ว ช่วยประหยัดต้นทุนในการลงทุน ระบบนี้ช่วยให้การขับเคลื่อนและใช้งานเครื่องจักรการเกษตร เช่น รถแทรกเตอร์ ทำงานได้อย่างอัตโนมัติ ด้วยความแม่นยำระดับเซนติเมตร นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และลดการใช้ทรัพยากรซ้ำซ้อน เช่น การไถพรวนหรือหว่านเมล็ดซ้ำในบริเวณเดียวกัน ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง ปุ๋ย และเมล็ดพันธุ์ได้มากถึง 20%

  1. ระบบปลูกพืชความแม่นยำสูง AGCO Precision Planting Pro 2500
    ระบบปลูกพืชความแม่นยำสูง AGCO Precision Planting Pro 2500 เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท AGCO Corporation สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรชั้นนำของโลก ระบบปลูกพืชรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาให้เป็นเครื่องปลูกที่มีความแม่นยำสูงที่สุดในอุตสาหกรรม สามารถควบคุมการหยอดเมล็ดได้ในระดับมิลลิเมตร

การทำงานของ AGCO Precision Planting Pro 2500 อาศัยระบบควบคุมการหยอดเมล็ดแบบไฟฟ้าที่ควบคุมแต่ละหัวหยอดแยกอิสระจากกัน ทำให้สามารถปรับความลึก ระยะห่าง และปริมาณการหยอดเมล็ดได้แตกต่างกันตามตำแหน่งในแปลง ระบบเซ็นเซอร์วิเคราะห์สภาพดินแบบเรียลไทม์จะตรวจวัดความชื้น ความแน่น และสารอาหารในดิน แล้วปรับการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพดินแต่ละจุดโดยอัตโนมัติ เทคโนโลยีการวัดแรงกดของล้อกดเมล็ดที่สามารถปรับแรงกดได้โดยอัตโนมัติตามสภาพดิน ทำให้เมล็ดพืชได้สัมผัสกับดินอย่างเหมาะสม เพิ่มอัตราการงอกและความสม่ำเสมอของต้นกล้า

จุดเด่นของ AGCO Precision Planting Pro 2500 คือความสามารถในการหยอดเมล็ดพืชที่หลากหลายชนิดและขนาดโดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ เพียงปรับการตั้งค่าผ่านระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ ระบบสามารถเปลี่ยนชนิดของเมล็ดพืชที่ปลูกได้อย่างรวดเร็วในขณะที่กำลังทำงาน ทำให้ปลูกพืชหลายชนิดในแปลงเดียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีการให้ปุ๋ยแบบแม่นยำที่สามารถจ่ายปุ๋ยพร้อมกับการหยอดเมล็ด โดยปรับปริมาณปุ๋ยตามความต้องการของพืชและสภาพดิน ช่วยลดการใช้ปุ๋ยโดยรวมได้ถึง 30% ระบบบันทึกข้อมูลการปลูกแบบละเอียดที่เก็บพิกัด GPS ของเมล็ดแต่ละเมล็ด ทำให้สามารถติดตามการเจริญเติบโตและวิเคราะห์ผลผลิตได้อย่างแม่นยำ

  1. ระบบปั๊มให้ธาตุอาหารพืชทางน้ำ XAG Fertilizer Injector
    ระบบปั๊มให้ธาตุอาหารพืชทางน้ำ XAG Fertilizer Injector เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท XAG ประเทศจีน ที่พัฒนาขึ้นเพื่อปฏิวัติระบบการให้ปุ๋ยและธาตุอาหารพืชผ่านระบบน้ำ อุปกรณ์นี้ช่วยให้การให้ปุ๋ยมีความแม่นยำ สะดวก และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าระบบแบบดั้งเดิม

การทำงานของ XAG Fertilizer Injector อาศัยระบบปั๊มความแม่นยำสูงที่สามารถควบคุมปริมาณปุ๋ยน้ำหรือสารละลายธาตุอาหารที่ผสมเข้าไปในระบบน้ำได้อย่างแม่นยำ ระบบควบคุมอัตโนมัติสามารถตั้งโปรแกรมให้จ่ายปุ๋ยตามตารางเวลาที่กำหนด หรือตามค่าที่วัดได้จากเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น ความชื้นในดิน ค่า pH หรือค่าการนำไฟฟ้าของสารละลายในดิน ระบบสามารถให้ธาตุอาหารพืช (ปุ๋ย) ทางน้ำแบบอัตโนมัติ สะดวก และแม่นยำ ในเวลาที่ต้องการ นอกจากนี้ ยังมีระบบผสมปุ๋ยอัตโนมัติที่สามารถผสมธาตุอาหารหลายชนิดให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมกับความต้องการของพืชในแต่ละช่วงการเจริญเติบโต

จุดเด่นของ XAG Fertilizer Injector คือความสามารถในการให้ปุ๋ยที่มีความแม่นยำสูง ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป ช่วยลดการสูญเสียปุ๋ยและป้องกันมลภาวะจากปุ๋ยตกค้าง ระบบสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ทำให้เกษตรกรสามารถควบคุมและติดตามการให้ปุ๋ยได้จากทุกที่ ทุกเวลา นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายภายในฟาร์มผ่าน XAG Local Server เพื่อรับข้อมูลจากอุปกรณ์อื่นๆ เช่น เซ็นเซอร์วัดสภาพอากาศ เซ็นเซอร์วัดความชื้นในดิน หรือข้อมูลจากโดรนสำรวจ เพื่อปรับการให้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความต้องการของพืชในแต่ละช่วงเวลา

  1. ระบบพ่นสารแบบแม่นยำ CNH Industrial Smart Sprayer Pro
    ระบบพ่นสารแบบแม่นยำ CNH Industrial Smart Sprayer Pro เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท CNH Industrial ที่มีสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักรและมีฐานการผลิตในหลายประเทศทั่วโลก ระบบพ่นสารรุ่นนี้ได้พัฒนาให้เป็นเครื่องพ่นสารเคมีทางการเกษตรที่มีความแม่นยำและประสิทธิภาพสูงที่สุดในปี 2025

การทำงานของ CNH Industrial Smart Sprayer Pro อาศัยเทคโนโลยีการประมวลผลภาพและปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงที่สามารถแยกแยะวัชพืชและพืชปลูกได้ในเวลาจริง กล้องความละเอียดสูงและเซ็นเซอร์หลายชนิดจะสแกนพื้นที่เกษตรในขณะที่เครื่องพ่นกำลังเคลื่อนที่ เมื่อตรวจพบวัชพืช ระบบจะสั่งการให้หัวฉีดเฉพาะจุดทำงานเพื่อพ่นสารกำจัดวัชพืชเฉพาะบริเวณที่มีวัชพืชเท่านั้น ไม่พ่นในบริเวณที่ไม่มีวัชพืช ระบบควบคุมการฉีดพ่นแบบแยกอิสระสามารถควบคุมหัวฉีดแต่ละหัวได้แยกจากกัน ทำให้สามารถพ่นสารในปริมาณที่แตกต่างกันตามความหนาแน่นของวัชพืชหรือแมลงศัตรูพืช

จุดเด่นของ CNH Industrial Smart Sprayer Pro คือความสามารถในการลดการใช้สารเคมีลงได้มากถึง 90% เมื่อเทียบกับการพ่นแบบดั้งเดิม โดยยังคงประสิทธิภาพในการควบคุมวัชพืชและศัตรูพืชได้เท่าเดิมหรือดีกว่า ระบบเซ็นเซอร์วัดสภาพลมและอากาศแบบเรียลไทม์ที่สามารถปรับขนาดละอองสารและความดันการฉีดให้เหมาะสมกับสภาพลม ลดการปลิวของละอองสารไปยังพื้นที่ข้างเคียง เทคโนโลยีการผสมสารอัตโนมัติที่สามารถผสมสารกำจัดศัตรูพืชหรือปุ๋ยในสัดส่วนที่เหมาะสมตามคำแนะนำของผู้ผลิตได้อย่างแม่นยำ ลดความผิดพลาดจากการผสมสารด้วยมือ ระบบนี้ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงในการปนเปื้อนของสารเคมีลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติได้อย่างมีนัยสำคัญ

  1. โดรนสำรวจและถ่ายภาพ XAG Remote Sensing Drone
    โดรนสำรวจและถ่ายภาพ XAG Remote Sensing Drone เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท XAG ประเทศจีน ที่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อการสำรวจและเก็บข้อมูลพื้นที่เกษตรอย่างละเอียด โดรนรุ่นนี้ถูกพัฒนามาเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการบินสำรวจและถ่ายภาพทางอากาศคุณภาพสูงระดับ HD ในทุกๆสภาพภูมิประเทศ

การทำงานของโดรนสำรวจ XAG อาศัยเทคโนโลยีการบินอัตโนมัติที่สามารถบินตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ โดรนติดตั้งกล้องความละเอียดสูงหลายชนิด ทั้งกล้องถ่ายภาพปกติ กล้องอินฟราเรด กล้องมัลติสเปกตรัม และกล้องความร้อน ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้หลากหลายมิติ การประมวลผลภาพขั้นสูงสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพถ่ายเพื่อประเมินสุขภาพของพืช ตรวจจับการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืชในระยะเริ่มต้น ประเมินความชื้นในดิน และคาดการณ์ผลผลิต ระบบการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์สามารถส่งข้อมูลจากโดรนไปยังศูนย์ควบคุมหรืออุปกรณ์มือถือได้ทันที ทำให้เกษตรกรสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วหากพบปัญหาในแปลงเกษตร

จุดเด่นของโดรนสำรวจ XAG คือความสามารถในการเก็บข้อมูลพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ในเวลาอันสั้น โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการสำรวจพื้นที่หลายสิบไร่ ซึ่งหากทำด้วยคนอาจต้องใช้เวลาหลายวัน ระบบเซ็นเซอร์หลายชนิดทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาในแปลงเกษตรได้อย่างละเอียด เช่น สามารถตรวจจับโรคพืชได้ก่อนที่จะแสดงอาการให้เห็นด้วยตาเปล่า ทำให้เกษตรกรสามารถจัดการปัญหาได้อย่างทันท่วงที ระบบการสร้างแผนที่ความแม่นยำสูงที่สามารถสร้างแผนที่ 3 มิติของพื้นที่เกษตร ช่วยในการวางแผนการระบายน้ำ การให้น้ำ และการจัดการพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลจากโดรนสำรวจยังสามารถนำไปใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบเกษตรอัจฉริยะ เช่น ระบบให้น้ำอัตโนมัติ เครื่องพ่นสารแบบแม่นยำ หรือหุ่นยนต์เกษตร เพื่อการจัดการฟาร์มที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด

  1. ระบบจัดการฟาร์มอัจฉริยะ Mahindra & Mahindra FarmTrac AI
    ระบบจัดการฟาร์มอัจฉริยะ Mahindra & Mahindra FarmTrac AI เป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัท Mahindra & Mahindra ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรชั้นนำที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในทศวรรษที่ผ่านมา ระบบนี้เป็นแพลตฟอร์มการจัดการฟาร์มอัจฉริยะแบบครบวงจรที่ผสมผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่

การทำงานของ FarmTrac AI อาศัยการเชื่อมต่อและเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์และเซ็นเซอร์หลากหลายชนิดภายในฟาร์ม เช่น เซ็นเซอร์วัดความชื้นในดิน สถานีตรวจวัดสภาพอากาศ กล้องตรวจจับสุขภาพพืช และข้อมูลการทำงานของเครื่องจักรกลการเกษตรต่างๆ ระบบจะประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ด้วยอัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง เพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของเกษตรกร แดชบอร์ดแสดงผลข้อมูลที่เข้าใจง่ายทำให้เกษตรกรสามารถมองเห็นภาพรวมของฟาร์มได้ในคลิกเดียว ขณะที่ระบบการแจ้งเตือนอัจฉริยะจะแจ้งให้ทราบหากมีสิ่งผิดปกติหรือต้องดำเนินการใดๆ

จุดเด่นของ Mahindra & Mahindra FarmTrac AI คือความสามารถในการรวมศูนย์การจัดการฟาร์มไว้ที่แพลตฟอร์มเดียว ลดความซับซ้อนในการใช้งานหลายระบบหรือแอปพลิเคชันแยกกัน ระบบการพยากรณ์ที่แม่นยำสามารถคาดการณ์สภาพอากาศ ผลผลิต และความเสี่ยงจากโรคและแมลงศัตรูพืชได้ล่วงหน้า 7-14 วัน ช่วยให้เกษตรกรวางแผนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนแบบเรียลไทม์ที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถติดตามต้นทุนการผลิตและประมาณการกำไรได้ตลอดเวลา ข้อมูลตลาดและราคาสินค้าเกษตรที่อัปเดตตลอดเวลา ช่วยให้เกษตรกรตัดสินใจเกี่ยวกับการขายผลผลิตได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ระบบยังสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องจักรกลการเกษตรทั้งของ Mahindra & Mahindra และผู้ผลิตรายอื่น ทำให้สามารถสั่งการและติดตามการทำงานได้จากที่เดียว

สรุป
เทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรในปี 2025 ได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ การเชื่อมต่อแบบไร้สาย และระบบอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้ เครื่องจักรทั้ง 10 รายการที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นโดรนเกษตรอัจฉริยะ XAG Agricultural Drone รถแทรกเตอร์อัตโนมัติ John Deere Autonomous 9R หุ่นยนต์เกษตรภาคพื้นดินไร้คนขับ XAG Unmanned Ground Vehicle ล้วนเป็นตัวอย่างของนวัตกรรมที่กำลังปฏิวัติวิธีการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นเกษตรสมัยใหม่ที่แม่นยำ มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนมากขึ้น

จุดเด่นร่วมกันของเครื่องจักรเหล่านี้คือความสามารถในการทำงานอย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยลดการใช้ทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย สารเคมี หรือพลังงาน นอกจากนี้ การเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ภายในฟาร์ม ก็เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของฟาร์ม เมื่อพิจารณาถึงการลงทุน แม้เครื่องจักรเหล่านี้อาจมีต้นทุนเริ่มต้นที่สูง แต่ในระยะยาวแล้ว การลดการใช้ทรัพยากร การเพิ่มผลผลิต และการลดการพึ่งพาแรงงาน จะช่วยให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่า การพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้จะยังคงก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต และจะเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงทางอาหารและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่โลกกำลังเผชิญอยู่

ติดตามข่าวสารช่องทางอื่น
Email : Chs_ratchasan@doae.go.th
เว็บไซต์ : https://chachoengsao.doae.go.th/ratchasan/
TIKTOK : https://www.tiktok.com/@kaset_ratchasan_doae
Twitter : https://twitter.com/Officia75282838
IG : https://www.instagram.com/laborerkasettambon/
facebook : https://www.facebook.com/KASETRatchasan

เปิดทำการเวลา 08:30 AM – 16.30 PM จันทร์ – ศุกร์

ติดต่อ Phone: 038591047 Email: chs_ratchasan@doae.go.th