
เชื้อราบิวเวอเรีย: พิฆาตแมลงศัตรูพืชอย่างมืออาชีพ ฉบับเกษตรกร 🐛⚔️
กราบสวัสดีพี่น้องเกษตรกรทุกท่าน วันนี้ผมขอนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเชื้อราบิวเวอเรีย (Beauveria bassiana) ตั้งแต่คุณสมบัติ กลไกการทำลายแมลงศัตรูพืช ไปจนถึงวิธีการผลิต ขยาย และใช้งานอย่างละเอียด เพื่อให้ท่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำการเกษตรของท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 🌿
เชื้อราบิวเวอเรีย: นักล่าแห่งโลกจุลินทรีย์ 🦠
เชื้อราบิวเวอเรีย เป็นเชื้อราที่อาศัยและกินเศษซากที่ผุพัง (Saprophyte) ลักษณะเส้นใยมีผนังกันไม่มีสี สปอร์รูปร่างกลม เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะมีสีขาว เรียกว่า “ราขาว” พบได้ในธรรมชาติ ในดินและบนตัวแมลงศัตรูพืช
การเข้าทำลายแมลงศัตรูพืช: กลไกอันทรงพลัง 💥
เชื้อราบิวเวอเรียสามารถก่อโรคกับแมลงศัตรูพืชหลายชนิด เช่น เพลี้ยไฟ ไรแดง เพลี้ยอ่อน เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล แมลงหวี่ขาว ด้วง หนอนผีเสื้อ หนอนด้วงศัตรูพืชหลายชนิด
กลไกของเชื้อราบิวเวอเรียในการเข้าทำลายแมลงศัตรูพืช ⚙️
- สปอร์ของเชื้อราติดอยู่กับอวัยวะต่างๆ ของแมลง 🐜
- สปอร์งอกเป็นเส้นใย แทงทะลุเข้าไปในอวัยวะของแมลงบริเวณที่มีความอ่อนบาง โดยอาศัยน้ำย่อยต่างๆ คือ โฮโล ไลเปส โพทีเนส และไคติเนส 🧪
- เชื้อราบิวเวอเรียสร้างเส้นใยทำลายไขมันและแพร่กระจายอยู่ทั่วในช่องว่างภายในลำตัวแมลง ทำให้แมลงตาย เส้นใยจะพัฒนาต่อไปโดยแทงผ่านผนังลำตัวแมลงออกมาสู่ภายนอกลำตัวแมลง และสร้างสปอร์ปกคลุมบนลำตัวด้านนอกของแมลง 🕷️
- สปอร์สามารถแพร่กระจายปลิวไปตามลม ฝน หรือติดไปกับแมลงตัวอื่น เมื่อสภาวะเหมาะสมจะทำลายแมลงศัตรูพืชต่อไป 🌬️🌧️
ลักษณะแมลงที่ถูกเชื้อราบิวเวอเรียทำลาย: หลักฐานการพิชิต 💀
แมลงที่ถูกเชื้อราบิวเวเรียทำลาย แสดงอาการเป็นโรค คือ เบื่ออาหาร กินอาหารน้อยลง อ่อนเพลีย ไม่เคลื่อนไหว ผนังลำตัวเปลี่ยนไป บริเวณที่ถูกเชื้อราทำลายเห็นเป็นจุดสีดำ เส้นใยและสปอร์สีขาวคลุมตัวแมลง
การผลิตเชื้อราบิวเวอเรีย: สร้างกองทัพนักล่าด้วยตัวท่านเอง 👨🔬
การผลิตเชื้อราบิวเวอเรียมีวิธีง่าย ๆ ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถผลิตใช้เองได้ โดยใช้หม้อหุงข้าวด้วยหม้อหุงข้าว แทนการนึ่งหม้อซึ้งความดันไอ และใส่เชื้อที่ห่องในห้องที่ลมสงบ โดยไม่ใช้ตู้เขี่ยเชื้อ เช่นเดียวกับการผลิตเชื้อราไตรโคเดอร์มา แต่โอกาสที่จะเกิดการปนเปื้อนจะสูงกว่าหม้อซึ้งความดันไอ
ขั้นตอนการผลิตขยายเชื้อราบิวเวอเรีย: วิธีนึ่ง 📝
- ① แช่ข้าวสาร หรือข้าวโพด นาน 1 ชั่วโมง 🍚
- ② ตักขึ้น ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
- ③ ตักข้าวใส่ถุง ๆ ละ 250 กรัม/ถุง และมัดปากถุง
- ④ เจาะรูใต้ถุงยางห่าง ประมาณ 20 – 30 ครั้ง 🕳️
- ⑤ นึ่งด้วยซึ้งทั้งถุง นาน 1 ชั่วโมง หลังน้ำเดือด จากนั้นทิ้งไว้ให้ข้าวอุ่น หรือเย็นลง ♨️
- ⑥ ใส่หัวเชื้อ หากเป็นหัวเชื้อน้ำ ใช้ 5 – 7 หยด หากใส่หัวเชื้อผง ใช้ครึ่งช้อนชาตักใส่ตรงปากถุงให้แม่น เขย่าถุงให้หัวเชื้อกระจายทั่วทั้งถุง 💧
- ⑦ วางถุงข้าวในลักษณะแบนราบ ให้ข้าวแผ่กระจายทั่วถุงต่ำกว่าบริเวณที่จะเจาะรู และไม่วางถุงข้าวซ้อนทับกัน ในบริเวณที่ร่มแสงสว่าง อากาศถ่ายเทได้ดี 🌤️
- ⑧ บ่มเชื้อครบ 3 วัน ขย้ำเชื้ออีกครั้ง
- ⑨ บ่มเชื้อต่อจนครบ 10 วัน เชื้อเจริญเต็มถุง นำไปใช้ได้ 📅
ข้อจำกัดในการใช้เชื้อราบิวเวอเรีย: พึงระวังเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ⚠️
ความร้อน ความชื้น มีผลต่อการอยู่รอดของเชื้อราบิวเวอเรีย และประสิทธิภาพในการควบคุมศัตรูพืช
การใช้เชื้อราบิวเวอเรีย: สู่ชัยชนะเหนือศัตรูพืช 🏆
- การฉีดพ่น: น้ำเชื้อสดผสมน้ำเล็กน้อย และเติมสารจับใบ ขยำเบาๆ ให้สปอร์สีขาวหลุดออกมาอยู่ในน้ำให้หมด กรองเอาเฉพาะน้ำ ผสมน้ำให้ได้ตามอัตราส่วน นำไปฉีดพ่นเชื้อราให้ถูกตัวแมลงศัตรูพืช โดยพ่นในที่แมลงศัตรูพืชออกหากิน หรือในช่วงเวลาเย็น โดยปรับซีบหัวพ่นให้เป็นละอองฝอยมากที่สุด หลังจากพ่นเชื้อราบิวเวอเรียแล้ว 5 – 7 วัน หากยังพบแมลงศัตรูพืช ควรพ่นเชื้อราบิวเวอเรียซ้ำ ระหว่างฉีดพ่นควรใส่หน้ากาก และสวมเสื้อผ้ามิชชิดป้องกันการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้ ผลผสมแล้วใช้ให้หมด การฉีดพ่นต้องหลีกเลี่ยงการใช้ในช่วงแสงแดดจ้า หากสภาพอากาศแห้งมาก ควรให้น้ำแปลงปลูกพืชก่อนการฉีดพ่นเชื้อราบิวเวอเรีย 💦
- การใส่ลงดิน: โรยใส่เชื้อ อัตราส่วน เชื้อสด 1-2 กำมือ/ตารางเมตร โรยเชื้อรารอบโคนต้นพืช ให้ทั่วบริเวณทรงพุ่ม พรวนดินกลบ หรือใช้วัสดุอื่นคลุม เช่น ฟาง/ข้าว หญ้าแห้ง เศษพืช ฯลฯ เพื่อป้องกันแสงแดด ☀️ รดน้ำสม่ำเสมอและใส่ซ้ำเดือนละครั้ง 💧
กราบขอบพระคุณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ได้กรุณาจัดทำและเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งนี้ เพื่อให้เกษตรกรและผู้สนใจได้รับความรู้และความเข้าใจในการใช้เชื้อราบิวเวอเรียในการทำการเกษตรอย่างยั่งยืนสืบไป 🙏
#เชื้อราบิวเวอเรีย #Beauveriabassiana #กำจัดแมลง #เกษตรอินทรีย์ #ควบคุมศัตรูพืช #เกษตรยั่งยืน #เชื้อจุลินทรีย์